วัดญี่ปุ่น เตรียมนำภาพ ‘หนุ่มหล่อ’ ลง หลังวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม

วัดญี่ปุ่น เตรียมนำภาพ ‘หนุ่มหล่อ’ ลง หลังวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม

วัดญี่ปุ่น ได้เตรียมนำภาพ หนุ่มหล่อ สวมชุดวาบหวิวซึ่งเป็นภาพวาดของบุคคลประวัติศาสตร์ ลง หลังถูกวิจารณ์หนักว่าไม่เหมาะสม เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน สำนักข่าว โซระนิวส์ 24 รายงานว่า วัดโคคุโจจิ วัดในเมืองซึบาเมะ จังหวัดนิกาตะ ประเทศญี่ปุ่น เตรียมนำภาพตัวละครสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ออกแบบตัวละครให้มีใบหน้าหล่อเหลาและสวมชุดวาบหวิว ออกจากกำแพง

โดยทางวัดโคคุโจจิได้ปรับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่และผู้ชื่นชอบภาพแนว BL หรือ Boy Love ให้เยี่ยมวัด 

หลังจากที่สถิติเผยว่ามีการคาดเดาว่าร้อยละ 40 ของวัดราวๆ 77,000 แห่ง ทั่วประเทศญี่ปุ่นจะปิดตัวลงในช่วง 25 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามด้วยภาพของตัวละครชายนุ่งน้อยห่มน้อย ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ภาพดังกล่าวไม่เหมาะสมกับวัด และไม่เหมาะแก่การศึกษา และมีรายงานว่า บอร์ดเพื่อการศึกษาในเมืองซึบาเมะ ร้องขอให้คืนสภาพเดิม

ซึ่งทางสำนักข่าวได้สอบถามถึงประเด็นดังกล่าวกับเจ้าอาวาส ซึ่งทางเจ้าอาวาสระบุว่า ทางวัดเตรียมจะนำรูปลงจริง แต่ไม่ใช่เพราะคำวิพากษ์วิจารณ์ แต่กังวลว่าภาพวาดจะขึ้นรา และได้รับความเสียหาย โดยทางวัดคาดว่าจะนำภาพลงในวันที่ 5 พฤษภาคม ปีหน้า

เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุ SUV พุ่งชนขบวนพาเหรด 5 ศพ และได้รับบาดเจ็บกว่าอีก 40 ราย เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 40 ราย เหตุรถ SUV พุ่งชนขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองคริสต์มาสในเมือง วอเคชา รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยนาย แดน ทอมป์สัน ผู้บัญชาการตำรวจได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วหนึ่งราย โดยผู้ต้องสงสัยได้พยายามหลบหนี หลังจากที่รถของเขาพุ่งชนขบวนพาเหรด อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะไม่ใช่เหตุก่อการร้าย

นอกจากนี้นาย ทอมป์สัน ยังยืนยันด้วยการสอบปากคำเป็นไปอย่างราบลื่น โดยเมือง วอเคชา มีประชาชนอาศัยอยู่ราวๆ 72,000 คน ซึ่งพาเหรดดังกล่าวจะเกิดขึ้นทุกๆปี ในวันอาทิตย์ ก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้า โดยผู้เข้าร่วมจะแต่งชุดแฟนซี มีการเต้นรำ และมี วงโยธวาทิต ร่วมแสดง

ผู้ชุมนุมในประเทศเนเธอร์แลนด์จำนวนมากได้ออกมาร่วม ประท้วงต้านล็อกดาวน์ เช่นเดียวกันกับหลายพื้นที่ในยุโรป หลังยอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มสูงต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้จับกุม ผู้ชุมนุมกว่า 48 รายที่ก่อเหตุจลาจลทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อแสดงพลังคัดค้านการล็อกดาวน์เป็นคืนที่สอง หลังจากที่หลายประเทศในยุโรป เผชิญกับจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มต่อเนื่อง

โดยอัยการได้ออกมาเปิดเผยว่า มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงอย่างน้อย 4 คน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดฉากยิงผู้ชุมนุมในระหว่าง ‘การมั่วสุมความรุนแรง’ ในนครรอตเตอร์ดัม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเฮก กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ชุมนุมที่จุดไฟเผาจักรยานและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังระบุอีกว่าผู้ชุมนุมได้ขว้างปาก้อนหินและพลุใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำดับเพลิง

อย่างไรก็ตามประเทศเนเธอร์แลนด์ไม่ใช่ประเทศเดียวกันที่มีการชุมนุมต้านมาตรการล็อกดาวน์ โดย ออสเตรีย, โครเอเชีย, ฝรั่งเศส และ  อิตาลี มีรายงานว่ามีผู้ชุมนุมออกคัดค้านการออกมาตรการสกัดโควิดเช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาแถลงว่าในขณะนี้ทวีปยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง และอาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5 แสนศพ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

ระทึก! รถ SUV พุ่งชนขบวนพาเหรด ในสหรัฐฯ เจ็บกว่า 20 ราย

รถ SUV พุ่งชนขบวนพาเหรด ในรัฐวิสคอนซิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เบื้องต้นมีผู้ถูกนำส่งพยาบาล 20 ราย ยืนยันมีผู้เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า ได้เกิดเหตุรถ SUV พุ่งชนขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองคริสต์มาสในเมือง วอเคชา รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น

โดยนาย แดน ทอมป์สัน ผู้บัญชาการตำรวจได้เปิดเผยว่า รถ SUV คันดังกล่าวได้พุ่งชนประชาชนที่เข้าร่วมงานพาเหรดมากกว่า 20 คน โดยในจำนวนดังกล่าวมีเด็กรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้นาย ทอมป์สัน ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุกอาจครั้งนี้ แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตทราบ ขณะที่นาย สตีเวน โฮเวิร์ด ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิง ซึ่งระบุว่า มีผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลอย่างน้อย 23 คน โดยเป็นผู้ใหญ่ 11 คน และเด็กอีก 12 คน

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถคันดังกล่าวแล้วและสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดผู้ต้องสงสัย แต่ยืนยันว่าการสืบสวนเป็นไปด้วยดี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้ายหรือไม่

โดยทางองค์การอนามัยโลกระบุว่าสาเหตุที่ยอดป่วยเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า โดยทาง BBC ระบุว่า แม้ประเทศอย่างสเปนจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบโดสแล้วกว่าร้อยละ 80 แต่อย่างประเทศรัสเซียมีเพียงประชาชนเพียงแค่ร้อยละ 32 เท่านั้น

ซึ่งนอกจากการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าแล้ว ทาง WHO ยังได้ระบุด้วยว่า การผ่อนมาตรการโควิด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง